วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

[2011] Paradise Kiss

Paradise Kiss




เรื่องนี้สร้างมาจากการ์ตูนค่ะ (ตอนนี้ก็ยังหาอ่านได้อยู่นะคะ รู้สึกว่าน่าจะประมาณ6หกเล่มจบ) 
เป็นการ์ตูนในดวงใจมุกเลยก็ว่าได้ เพราะอ่านตั้งแต่สมัยม.ปลายแล้ว เพราะเป็นการ์ตูนที่ไม่ค่อยยาว
แต่ว่าสนุก โดยส่วนตัวแล้วมุกว่าเค้ามีพล็อตเรื่องน่าสนใจนะคะ เพราะเกี่ยวกับแฟชั่น อีกทั้ง
ตัวละครแต่ละตัวก็มีบุคลิก นิสัย ภาพลักษณ์ การแต่งตัวแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

แล้วพอได้ข่าวว่าเรื่องนี้จะได้ถูกสร้างมาเป็นภาพยนตร์ มุกก็ดีใจม๊ากๆ ตื่นเต้นไปด้วยเลย ฮ่าๆๆ
ดันเรื่องนี้เต็มที่ ลุ้นนักแสดงด้วย โดนใจทั้งนั้นเลย >.<

ขอเล่าเรื่องนี้เลยล่ะกันนะคะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา
เรื่องนี้เริ่มจากยูคาริ นักเรียนมัธยมปลายแสนธรรมดา (แต่สวยค่อดดด)  
Yukari 'Caroline' Hayasaka (แสดงโดย Keiko Kitagawa)
กำลังเคร่งเครียดกับการเตรียมสอบเข้าสู่มหาวิทยาลัยในปีสุดท้าย เป็นเรื่องธรรมดา
สำหรับวัยนี้ที่จะแอบรักแอบชอบใครบ้าง ยูคาริเองก็เช่นกัน เธอกำลังแอบชอบเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่ง
ชื่อว่า Yusuke Yamamoto (ไม่เน้นอ่ะตรงนี้เพราะบทไม่ค่อยเด่น)



เรื่องราวที่เปลี่ยนผันชีวิตของยูคาริก็คือ ขณะเดินทางกลับบ้านในตอนเย็น เธอได้ไปพบผู้ชายคนนึง
ผู้ชายคนนี้ค่อนข้างแต่งตัวจัด และสะพายเคทใส่กีต้าร์ไว้ข่้างหลัง ดูท่าทางไม่น่าไว้วางใจเอาซะเลย
ผุ้ชายคนนั้นชื่อว่าอาราชิ Arashi Nagase เค้าพยายามเค้ามาตีสนิทกับยูคาริ
ด้วยความที่เป็นผู้หญิงก็ไม่อาจจะไว้วางใจชายคนนี้ได้ เมื่อเห็นอาราชิตามตื้อ ยูคาริก็พยายามวิ่งนี้
จนไปชนกับใครคนหนึ่งเข้า คนๆ นั้นมีชื่อว่า อิซเบลล่า Isabella 
ทั้งอาราชิและอิซเบลล่าต่างก็เป็นเพื่อนกัน เมื่อยูคาริได้วิ่งชนกับอิซเบลล่า เธอก็เป็นลมสลบไปเลย
ทั้งอิซเบลล่ากับอาราชิต่างก็ตกใจ จึงตัดสินใจพายูคาริกลับไปที่สตูดิโอของพวกเขา
(สตูโอนี้มีไว้สำหรับตัดเย็บเสื้อผ้า ชื่อว่าพาราไดซ์คิส)
(ทั้งอาราชิและอิซเบลล่าเรียนที่เดียวกันและอยู่ในแก็งซ์พาราไดซ์คิสด้วย)





แก๊งซ์พาราไดซ์คิส(เรียกแบบนี้เลย) ประกอบไปด้วยสมาชิกทั้งหมดสี่คน ได้แก่
Jouji 'George' Koizumi จอร์จ โคอิซูมิ (แสดงโดย Osamu Mukai)
Isabella  อิซเบลล่า (แสดงโดย Shunji Igarashi)
Arashi Nagase อาราชิ  นากาเสะ (แสดงโดย Kento Kaku) >.<
และ Miwako Sakurada มิวาโกะ  ซากุระดะ (แสดงโดย Aya Omasa)

ทั้งสี่คนนี้เป็นนักเรียนจากโรงเรียนศิลปะแห่งหนึ่ง และอยู่ในสาขาแฟชั่นดีไซน์
ทั้งสี่ต้องร่วมกันทำโปรเจคที่ทางโรงเรียนจะจัดขึ้น ซึ่งเป็นการประกวดแฟชั่นโชว์
อาราชิก็เลยออกหาคนที่จะเป็นนางแบบเพื่อที่จะเดินในงานพวกพวกเขา


 หลังจากพามาที่สตูดิโอ ยูคาริก็ได้มาพบกับสมชิกอีกคนนั่นก็คือ Miwako Sakurada มิวาโกะ  ซากุระดะ
(มิวาโกะเรียกยูคาริว่าแคโรไลน์ นั่นเป็นที่มาของชื่ออีกชื่อหนึ่งเด้อ)
ทั้งหมดนั้นก็ได้อธิบายว่าต้องการให้เธอมาเป็นนางแบบให้ แต่ดูเหมือนนางเอกกำลังช็อค เธอจึงปฏิเสธ
และรีบออกไปจากที่นั่นทันที 
แล้วเธอก็ป๊ะกับพระเอก ณ เวลานั้น มองกันแว๊บนึงแล้วก็วิ่งออกไป
อ๊อ! พระเอกคือ จอร์จ  โคอิซุมินะคะ เหลืออยู่คนเดียวล่ะ ฮ่าๆๆๆ
ชื่อฝรั่งจ๋าเลยทีเดียว (และนี่ก็เป็นอีกจุดเด่นนึงของเรื่องนี้นะคร้าาา)





จอร์จก็เลยได้รู้ว่ายูคาริคือผู้หญิงที่พวกอาราชิและอิซเบลล่าพามา
เพื่อจะเอาเป็นนางแบบเดินในเสื้อผ้าของพวกเขา


พระเอกลงทุนไปตามนางเอกถึงโรงเรียนเลยนะ ว้าวๆๆ แต่งตัวโคตรเด่นเลยน่ะนี่
จากนั้นก็ฉุดกระชากลากถูนางเอก (อุ๊บ ไม่ถึงขนาดนั้นนน)
พานางเอกออกไปข้างนอก แล้วก็เปลี่ยนลุคใหม่ (ตัดหน้าม้า น่ารักมากๆ)


อยากผมยาวแบบนี้บ้างจังเลยแฮะ !
ต่อๆๆ นางเอกก็เขิลมากที่ตัวเองตัดผมใหม่ แต่พอคนที่แอบชอบบอกว่าน่ารักดี เธอก็ปลื้มๆๆ
ฉันเล่าน้ำเยอะไปล่ะ เอาเนื้อๆ เลยดีกว่างิ

นางเอกโดนตามตัวบ่อยมากกก ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ได้เต็มใจอยากจะเป็นนางแบบเลย
ท้ายที่สุดเธอก็มารู้ทีหลังว่าคนที่เธอแอบชอบอ่ะเคยเป้นคนที่มิวาโกะ(สาวผมแกะ) รักมาก่อน
และยังเคยเป็นเพื่อนกันกับอาราชิด้วย เธอจึงยอมทำงานให้กับพาราไดซ์คิส
มีบางฉากบางตอนมุกก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่เพราะดูซับอิ๊ง อย่าวฉากจอร์จพานางเอกเข้าโรงแรม
=[]=


พระเอกพูดอะไรบางอย่างให้นางเอกสะเทือนใจอ่ะ


นางเอกก็ทะเลาะกับแม่ด้วย เรื่องที่จะไปเป็นนางแบบนี่ล่ะ เหมือนคุณแม่ขาแอนตี้เบาๆ
คืออยากให้คุณลูกตั้งใจเรียนมากกว่าจะมาเป็นนางแบบไร้สาระแบบนี้
นางเอกก็บอกว่าจะบริหารเวลาไม่ให้เบียดเวลาติวหนังสือ คุณแม่ก็ไม่ย๊อมไม่ยอม
จนต้องทะเลาะกันและลงไม้ลงมือ
ยูคาริตัดสินใจหนีออกจากบ้าน

แล้วเธอก็ได้จรลีไปอยู่บ้านจอร์จ (วิดวิ้วววว)
แต่นอนกันคนละห้องนะเออ แหมมมมมม
ระหว่างนี้นางเอกก็ได้ไปเรียนรู้งานการเป็นนางแบบด้วยจากการฝากฝังของจอร์จ
ทีแรกก็กลัวๆ แต่พอพระเอกให้กำลังใจว่าเธอต้องทำได้เท่านั้นแหละ
ความมั่นใจมันก็พุ่งปรี๊ดดดด จนทำงานได้สำเร็จ และเป็นที่น่าพอใจ


 ใกล้วันงานเดินแบบเข้ามาทุกที ระหว่างนั้นก็ได้มีเหตุการณ์ที่ทำให้ตกใจไม่น้อย
นั่นก็คือจอร์จจะไปเป็นดีไซเนอร์ที่ปารีสทันทีหลังงานนี้จบ ฮ่อกกกก !!
นางเอกเองก็ตกใจ แล้วพอรู้อย่างนั้น
สตูดิโอพาราไดซ์คิสก็ต้องปิดตัวไปด้วย ถึงตรงนี้มันเศร้าาาา ทุกคนจะไม่ได้เจอกันอีกแว้วว
พอถึงวันงาน ทุกคนต่างก็วุ่นวายกับงานของตัวเองเพราะมีบางส่วนของเครื่องประดับที่ยังทำไม่เสร็จ
ระหว่างนั้นทางงานก็ได้ให้นางแบบไปฝึกฝนการเดินในเวทีที่จัดแสดง


ยูคาริเดินได้ไม่ดีเท่าไหร่ (เดินแข็งๆ เกร็งๆ) สร้างความไม่พอใจให้จอร์จมาก
จอร์จถึงกับโมโห แล้วพอตอนแต่งหน้าให้กันอยู่ ยูคาริเหมือนกับพูดว่าฉันน่ะทำไม่ได้หรอก
เดินก็แย่ บลาๆๆๆ พระเอกก็ยิ่งโมโหเข้าไปอีก เลยโกรธนางเอกแล้วเดินนี้ไปเลย
นางเอกก็ร้องไห้ อิซเบลล่าก็เลยเข้ามาปลอบ 
(อ๊อ อิซเบลล่าเค้าเป็นผุ้ชายนะคะ แต่แต่งตัวเป็นผู้หญิงเฉยๆ)

พอช่วงเดินแบบจริง ทุกคนก็ตั้งหน้าตั้งตารอดูอย่างใจจดใจจ่อ เพราะกลัวว่ายูคาริจะทำไม่ได้
(นางเอกทีมสุดท้าย)

ในงานนั้นคนที่นางเอกแอบชอบ ( Yusuke Yamamoto) ก็มาดูด้วย
คุณแม่ขาของยูคาริก็มา 
ที่ด้านหลังเวลาที่จอร์จก็รออยู่กับนางเอก พอใหล้ถึงคิวจอร์จก็สวมแหวนให้นางเอก
เป็นแหวนรูปผีเสื้อสีน้ำเงินเข้ากับชุดมากๆ เพื่อเป็นกำลังใจให้ยูคาริ
ยูคาริเดินได้ดีมาก จนหลายคนตกตะลึง




ยูคาริดีใจมากที่แม่มาดู มันเหมือนกับปมที่ทั้งคู่สร้างขึ้นมาได้หายไปด้วย
แม่ชื่นชมในความสามารถของยูคาริ ยูคาริเองก็ดีใจที่แม่เข้าใจเธอ
หลังลงจากเวที ยูคาริทำให้จอร์จประทับใจมาก จอร์จก็เลยตบรางวัลเป็นจูบอันนุ่มนวล >.<
นางเอกเหมือนจะขัดขืน แต่ท้ายที่สุดก็เคลิบเคลิ้ม ฮิฮิฮิ


ถึงช่วงประกาศผลอันดับต่างๆ นางเอกก็ทำหน้าเซ็งเล็กน้อยเพราะทีมพาราไดซ์คิสได้ที่ 2 

(ในเรื่องจะมีทีมคู่แข่งทีมนึงด้วย ทีมนั้นได้ที่หนึ่งนะคะ ชุดสวย น่ารัก ใช้ได้เลยค่ะ)



หลังเดินแบบ นางเอกเหมือนจะรู้อยู่แล้วล่ะว่าพระเอกจะต้องไปเป็นดีไซเนอร์ที่ปารีส
นางเอกก็เหมือนพูดเปิดใจอ่ะว่าตัวเองจะตามไปที่นั่นให้ได้
จอร์จก็เลยบอกว่า พิสูจน์ให้เห็นด้วยว่าเธอน่ะทำได้ แล้วฉันจะรอดูเธอ
(ตรงนี้เค้ามั่วอ่ะ แต่เนื้อหาคงราวๆ นี้)


หลายเดือนผ่านไป ยูคาริได้รับพัสดุที่ส่งมาจากปารีส เจ้าตัวก็ตื่นเต้นมากเพราะรู้อยู่แล้วว่ามาจากจอร์จ
หน้ากล่องไม่ระบุชื่อผู้ส่ง แต่เป็นรูปผีเสื้อแทนอ่ะนะ
ข้างในเป็นกุญแจดอกนึง แล้วเนื้อความในจดหมายบอกว่าให้ไปยังที่แห่งหนึ่ง

นางเอกก็รีบวิ่งไปอย่างทันทีทันใด พอมาถึงที่นี่ก็มีแต่หยากไย่ เพราะไม่มีคนอยู่นานแล้ว (ตึกร้าง)
นางเอกตรงไปยังห้องดังกล่าวแล้วก็เปิดประตูเข้าไป

ห้องนี้เป็นห้องรวมเสื้อผ้าที่จอร์จตัดเย็บและออกแบบด้วยตัวเอง(ตั้งแต่แปดขวบ บร๊ะเจ้าาา)
ตรงกลางของนั้นเป็นชุดสีน้ำเงินที่นางเอกเคยใส่เดิน ตั้งอยู่สง่างาม
ข้างหน้ามีเครื่องประดับวางใกล้กัน เป็นแหวน
ครั้งนึงพระเอกเคยบอกยูคาริไว้ว่า เสื้อผ้าทั้งหมดที่เขาสร้างเขาจะให้คนพิเศษของเขาใส่มันเท่านั้น
พอนึกถึงตอนนั้น นางเอกก็ร้องไห้ทันทีเพราะทั้งหมดจอร์จได้มอบมันให้กับเธอ T_T





หลายปีผ่านไป ยูคาริโด่งดังจากการเป็นนางแบบมีงานเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย
เธอได้กลายเป้นนางแบบมืออาชีพที่มีชื่อเสียง มีงานถ่ายแบบ โฆษณามากมาย




และเธอก็ได้มีโอกาสทำงานที่ต่างประเทศคือที่อเมริกา (นางเอกเปรี้ยวอ่ะ >.<)
ขณะเดินอยู่ในเมือง ก็ได้ไปพบกับกลุ่มคนที่มุงหน้างานแห่งหนึ่ง
เป้นงานโชว์เสื้อผ้าของดีไซเนอร์มีชื่อคนนึง ระหว่างที่มองดูอย่างสนใจ สายตาก็ไปป๊ะกับบางอย่าง
เสื้อผ้าที่นางแบบใส่ในรูปมีสัญญลักษณ์ของผีเสื้อ
แล้วตรงชื่อดีไซเนอร์ก็เป็นของ จอร์จ  โคอิซุมิ
แล้วก่อนหน้านั้นเธอก็เหลือบไปเห็นใครคนนึงดูคล้ายคนที่เธอรู้จัก
แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าผู้หญิงเหมือนกับอิซเบลล่า
อิซเบลล่าเดินหายไปยังทางเข้าด้านข้างที่มีไว้สำหรับพวกสตาฟเท่านั้น
ยูคาริพยายามวิ่งตามไป แต่ก็โดนการ์ดกันตัวเอาไว้ 



แล้วไม่นานอิซเบลล่าก็วิ่งมาช่วย
ทั้งคู่คุยกันเล็กน้อย
อิซเบลล่าบอกว่าจอร์จเองก็ย้ายมาที่นิวยอร์กเมื่อปีที่แล้ว
แล้วอิซเบลล่าก็ให้ที่อยู่สตูดิโอของจอร์จกับยูคาริไป

พอมาถึงสตูดิโอ ประตูไม่ได้ล็อคแล้วก็ไม่มีคนอยู่ ยูคาริจึงถือวิสาสะเข้าไป
ที่นี่ให้ความรู้สึกเหมือนตอนที่เธออยู่ที่พาราไดซ์คิสจนน่าตกใจแล้วทำให้หวนรำลึกนึกถึงอดีต
หน้าต่างถูกเปิดเอาไว้ พอลมพัดเข้ามาทำให้เอกสารบนโต๊ะปลิวตกกระจายทั่วห้อง
ยูคาริก็รีบวิ่งไปปิดหน้าต่างแล้วเก็บเอกสารเข้าที่

พอดีกลับที่จอร์จกำลังมาถึงพอดี๊ พอดี

ระหว่างเก็บเอกสารอยู่นั้น นางเอกก็เห็นกองหนังสือและนิตยสารญี่ปุ่นมากมายกองอยู่
ทั้งหมดเป็นนิตยสารที่มีรูปของเธอทั้งนั้น
ทำให้ยูคาริรู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาจอร์จติดตามดูเธอมาโดยตลอด



พอถึงตรงนี้จอร์จก็เข้ามาในสตูดิโอพอดี ทั้งคู่ได้พบกันอีกครั้ง
หลังจากที่ไม่เคยได้พบกันมานานมาก ไม่มีคำพูดได้ที่เล็ดลอดออกมา (ปามานว่าซาบซึ้งจนพูดไม่ออก)


พระเอกตัดสินใจวิ่งมากอดนางเอกทันทีด้วยความคิดถึง
แล้วก็จูจุ๊บกัน อ๊างงง >.<
จบแล้วค่าาา 끝~



เรื่องนี้มุกให้สามดาวค่ะ (ทำไมน้อยยจัง เห็นดันสุดๆ)
แบบว่ามุกคิดว่าเรื่องมันจบเร็วไปอ่ะค่ะ เหตุการณ์มันไปรวดเร็วมาก
เมื่อเปรียบเทียบกับการ์ตูน เหมือนจะมีอะไรเกิดขึ้นมากกว่านี้นะ
(ก็เป็นหนังอ่ะจะยืดยาวทุกฉากได้ไงงง) เหะๆๆๆ
เอาเป็นว่าสามดาวค่ะสามดาวว




**แนะนำเพลงประกอบด้วยค่ะเพราะมากทั้งสองเพลงเลยก็คือเพลง Hello กับ You ร้องโดย YUI ค่ะ**



วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

[2011] Koukou Debut ★★★★

 Koukou Debut  


เรื่องนี้ทำมาจากการ์ตูนค่ะ ดูจากโปสเตอร์แล้วสีสันสดใสสะดุดตามาก เป็นหนังที่ให้อารมณ์
รักอินเลิฟแบบตลกแป้กๆ หรือที่เค้าว่าเลิฟคอมเมดี้นั่นแหละ
ธีมก็จะมาแนวนางเอกชื่อว่า Haruna Nagashima (แสดงโดย Ito Ono) เป็นนักเรียนม.ปลาย
ที่นิสัยโก๊ะๆ เปิ่นๆ แต่งตัวไม่เป็น แต่ชอบเล่นบอสบอล
สมัยเด็กเป็นนักกีฬาเบสบอลด้วย (เก่งมากๆ)

เริ่มเรื่องเมื่อนางเอกของเราเริ่มหดหู่ใจเมื่อพบว่าตัวเองอยู่ม.ปลายแล้ว
แต่ก็ยังไม่มีแฟน พยายามเท่าไหร่ก็ไม่มีชายใดชายตามองเลย T^T


เพราะอุบัติเล็กน้อยที่เธอสะดุดล้มจนรองเท้าข้างหนึ่งหลุดลอยหายไป
และพระเอกก็เก็บมันได้ You Komiyama (แสดงโดยJunpei Mizobata) >.<
มาแนวแบบว่าพระเอกหล่อเริด นางเอกโก๊ะๆ อีกแล้ว แต่ก็ชอบค่ะ เพราะหนังแนวนี้ดูแล้วมันจั้กจี้หัวใจดีอ่ะเนอะ >.<


นางเอกนั้นตกตะลึงในความหล่อเริ่ดของโยซังอย่างมาก (หรือว่าคนเขียนวะ ฮ่าๆๆๆ)
แล้วเธอก็ได้มาค้นพบความจริงว่าโยนั้นเรียนโรงเรียนเดียวกับเธอ
เธอก็เลยพยายามไปขอร้องให้โยมาเป็นโค้ชให้เธอ เพื่อที่เธอจะได้มีแฟนกะเค้าซะที!
นางเอกได้มีโอกาสรู้จักกับ Asami Komiyama ซึ่งเป็นน้องสาวของโยด้วยทำให้เธอพยายามเซ้าซี้โยอย่างมาก


พระเอกก็เหมือนจะไม่ยอมนะ แต่ท้ายที่สุดก็ต้องยอม ฮ่าๆๆๆ
โดยมีเงื่อนไขว่าห้ามหลงรักโค้ชเด็ดขาด นางเอกก็ตบปากรับคำเป็นอย่างดี หุหุหุ

พระเอกจัดการนางเอกในทุกๆ เรื่อง ตั้งแต่เสื้อผ้า นัดเดทกับเพื่อนให้ วิธีการวางตัวที่เหมาะสม บลาๆ
ตอนที่นางเอกกำลังเดทกับเพื่อนของโย ชื่อว่า Fumiya Tamura (แสดงโดย Masaki Suda) 


ดูเหมือนการเดทผ่านไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายคล้ายจะลงเอยด้วยกันแต่ว่า...
ฝ่ายนางเอกก็ต้องหัวใจสลาย เพราะฟูมิยะนั้นได้ลงเอยและคบกับอาซามิน้องสาวของโย
(ค่อนข้างน่ารักมากๆ อ่ะคู่นี้)




นางเอกเสียใจสักพัก แต่ก็ได้พระเอกคอยดูอยู่ห่างๆ ทำให้เธอกลับมาสดใสได้อีกครั้ง
มีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้น ทั้งนางเอกโดยอริเก่าคอยกลั้นแกล้ง
ทำให้ทั้งโยและนางเอกต้องมาเผชิญเหตุการณ์เลวร้ายร่วมกัน
ทั้งสองเริ่มเห็นอกเห็นใจกัน แต่ดูเหมือนนางเอกจะคิดมากไปคนเดียวเสียมากกว่า ฮ่าๆๆ


นางเอกเผลอหลงรักโยโดยไม่รู้ตัว และพยายามจะหักห้ามใจตัวเองไม่ให้คิด 
แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธความรู้สึกของตัวเองได้ วิดวิ้ววว

ส่วนโยเองก็ปากแข็งเพราะตัวเขาเองก็เหมือนจะเริ่มชอบนางเอกเหมือนกัน
แต่ก็ไม่กล้าเอ่ยปากบอก ทำให้เรื่องต้องเดือดร้อนถึงมือ Yui Asaoka (แสดงโดย Yuki Furukawa) 
เพื่อนอีกคนในกลุ่มโย มาขออกเดทกับนางเอกเพื่อให้นางเอกลืมโยให้ได้


สุดท้ายเดทนี้ก็ต้องล่มลงเพราะโยเข้ามาขัดขวางตอนที่นางเอกจะโดนจูบ >.<
เพื่อนของโยก็เลยเดินจากไป เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าโยนั้นต้องมาหานางเอก
โยไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าเขาก็รักนางเอกเช่นกัน

ช่วงท้ายของเรื่องกล่าวถึงแฟนเก่าของโย โอ๊ะ! ไม่สิ คนที่โยเคยแอบชอบมากกว่า
กลับมาเพื่ออยากจะขอคืนดีกับโย แต่ดันมาเจอกับนางเอกซะได้
นางเอกที่ไม่รู้เรื่องอะไรก็คุยกับเธอคนนั้นอย่างสนิทสนม แต่เมื่อพบว่าเธอคนนั้น
เป็นคนที่โยแอบรัก นางเอกก็ถึงกับ ช็อค ช็อค ช็อค 

ถึงตรงนี้นางเอกได้หลงรักพระเอกจนถอยกลับไปไม่ได้แล้วล่ะค่ะ
ในขณะที่ลังเล นางเอกก็ตัดสินใจกลับไปหาโย และจะไม่ยอมให้โยไปจากเธอ

ฉากสุดท้ายก็เหมือนเริ่มแรกเลยอ่ะค่ะ
นางเอกทำรองเท้าหลุด แล้วพระเอกก็กลับมาเก็บให้อีก 
โยสารภาพรักกับนางเอกแล้วก็จูจุ๊บกันนนน





โดยรวมแล้วหนังเรื่องนี้น่ารักทีเดียวค่ะ นักแสดงทุกคนก็น่ารักมากๆ (ปลื้มแก๊งพระเอกทุคนเลยอ่ะ)
ส่วนนางเอกเรื่องนี้ให้อารมณ์แบบว่าโนดาเมะมาก แต่อาจจะน้อยกว่าโนดาเมะหน่อย ฮ่าๆๆ
แต่มุกว่าตอนท้ายเรื่องนั้นด่วนสรุปไปหน่อย ถ้าเรื่องนี้เป้นซีรี่ย์ก็อาจจะเพอร์เฟคก็ได้นะคะ
เรื่องนี้มุกให้สี่ดาวค่ะ

★★★★


วันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

[2010] Hanamizuki ★★★★

Hanamizuki


เกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ ถ้าใครที่ชอบหนังแนวรักโรแมนติก ไม่เคยพลาด เรื่อง Hanamizuki โดยส่วนตัวแล้วมุกรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ให้อารมณ์คล้ายๆ กับเรื่อง sky of love เลย คือมัยซาบซึ้งตรึงใจมากๆ




                เนื้อเรื่องเล่าถึงซาเอะ(แสดงโดย Aragaki Yui) เด็กผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่กับแม่สองคน ซาเอะเป็นเด็กเรียนเก่ง และเมื่อช่วงมัธยมปลายก็ได้มาพบกับพระเอกของเรื่องคือโคเฮคุง (เรียกตามนางเอกเลย) (แสดงโดย Ikuta Toma) ทั้งคู่ได้รู้จักกันและเริ่มสนิทสนมกันในที่สุด เรื่องดำเนินไปถึงช่วงนางเอกสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยในโตเกียวได้ ทั้งคู่เลยต้องแยกจากกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่ความสัมพันธ์ก็ยังรักกันเหมือนเดิม





มันเหมือนกับว่ามีอุปสรรคเกิดขึ้นมาก ทั้งเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวของพระเอกต้องประสบกับภาวะทางด้านการเงินที่ย่ำแย่ (ครอบครัวของโคเฮมีอาชีพล่องเรือหาปลา) เลยต้องขายเรือทิ้ง ทำให้ความฝันที่พระเอกจะเป็นนักหาปลาเดินทางรอบโลกนั้นได้สลายลง (พระเอกเคยสัญญากับนางเอกไว้ ผิดถูกยังไงก็ขออภัยนะคะ เพราะมุกดูหนังจากซับอิ้ง =__=)
หลายปีผ่านไป นางเอกจากที่ใฝ่ฝันว่าอยากจะเรียนและเอาดีทางด้านภาษาอังกฤษ ก็เริ่มเติบโตและมีงานทางด้านนี้ ทั้ง ซาเอะและโคเฮต่างก็มีวิธีชีวิตไปคนละเส้นทาง โคเฮก็แต่งงานกับผู้หญิงคนนึงในหมู่บ้าน ถึงตรงนี้มุกเศร้ามากคือคงกลับมารักนางเอกไม่ได้แล้วแน่ เพราะเจ้าตัวแต่งงานกับสาวอื่นไปแล้ว T^T แล้วทางด้านซาเอะนั้นก็ได้มีความรู้สึกดีๆ กับรุ่นพี่ที่มหาลัยคนหนึ่งที่คอยให้ความช่วยเหลือมาตลอด (แล้วอย่างนี้จะกลับมารักกันได้ยังไงงง)





และเมื่อทั้งสองได้มาพบกันอีก ทำให้ความรู้สึกลึกซึ้งเริ่มครุกกรุ่นอีกครั้ง ทั้งสองต่างก็ยังลืมกันไม่ได้ โคเฮเริ่มมีปัญหากับภรรยาซึ่งเธอกลัวว่าโคเฮยังรักซาเอะอยู่ ฝ่ายซาเอะรุ่นพี่ก็ขอแต่งงาน แต่ท้ายที่สุดรุ่นพี่ก็ตายในสนามรบ (เป็นช่างภาพ) มันประจวบเหมาะเจาะมากที่ทั้งสองจะได้กลับมารักกันอีกครั้ง แต่ก็ใช้เวลานานพอสมควร ทั้งพระเอกและนางเอกต่างก็ให้เวลาในการตัดสินใจในชีวิต ซาเอะที่เคยทำงานในบริษัทที่นิวยอร์กก็กลับมาอยู่ที่บ้านเกิดในฮอกไกโดกับแม่ ส่วนพระเอกก็ได้ออกไปเป็นนักหาปลา (เค้าเรียกงี้ป่าวอ่ะ) กับเรือหาปลาทูน่าที่ล่องไปในทะเลผ่านทวีปต่างๆ
ในเรื่องมันจะมีโมเดลเรือชิ้นนึงที่โคเฮทำให้ซาเอะ ซึ่งเจ้าเรือลำนี้ล่ะที่ทำให้ทั้งสองคนกลับมาพบกันอีกครั้ง





มุกเล่าแบบรวบๆ มากอ่ะค่ะ ต้องไปดูกันเอง เพราะมันซาบซึ้งมาก ใครที่ชอบเรื่อง Sky Of Love มุกเชื่อว่าจะต้องชอบเรื่องนี้ด้วย เป็นหนังรักที่ให้ความสำคัญกับทุกตัวละคร ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ เพื่อน รวมไปถึงวิถีชีวิตในแต่ละช่วงอายุตั้งแต่ซาเอะเด็กๆ เป็นวัยรุ่น โตจนเรียนมหาลัย และได้ทำงานตามความใฝ่ฝัน ในขณะที่โคเฮก็มีวิธีเป็นลูกเรือหาปลากับพ่อ (ดูแล้วก็อยากจะไปหาปลาบ้าง) แล้วฉากและโลเคชั่นในหนังสวยมากๆ ค่ะเห็นแล้วอยากจะไปเที่ยวบ้างจัง ท้ายที่สุดหนังเรื่องนี้ก็ทำให้เรารู้ว่ารักแรกของเราก็อาจจะกลายเป็นรักสุดท้ายของเราก็ได้ >.< เข้าทำนองที่ว่าเนื้อคู่กันแล้ว ไม่แคล้วกันอย่างแน่นอน ยังไงๆ ก็ต้องได้กลับมาเจอกันอีกครั้งแล้ว ครั้งเล่า
คะแนนเต็มห้าดาวมุกให้ สี่ดาวค่ะ
★★★★

ตัวอย่างหนัง